5 ข้อห้ามเกี่ยวกับสายไฟที่หลายคนไม่รู้
ใช้งานสายไฟอย่างปลอดภัยด้วยข้อห้ามที่ไม่ควรมองข้าม
ในปัจจุบันนี้การใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในบ้าน การใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ และยังรวมไปถึงการชาร์จโทรศัพท์มือถือที่เรามักจะทำกันทุกวันอยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกันเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานสายไฟกลับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ใครหลายคนมักมองข้าม ซึ่งความไม่ระมัดระวังเพียงเล็กน้อยอาจจะนำไปสู่อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดและอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นการรู้ข้อห้ามที่เกี่ยวกับการใช้สายไฟจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราทุกคนไม่ควรมองข้ามนั่นเอง
ห้ามใช้สายไฟที่ได้รับความเสียหาย
หนึ่งในความเสี่ยงในการใช้สายไฟที่หลายคนมักจะมองข้าม ซึ่งอาจจะนำไปสู่ปัญหาใหญ่ที่ไม่คาดคิดนั่นก็คือ การใช้งานสายไฟที่ได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นสายไฟที่มีฉนวนแตกหักหรือสายไฟที่เกิดการฉีกขาดที่บริเวณใดบริเวณหนึ่ง ถึงแม้ว่าในระยะแรกจะยังดูเหมือนสามารถใช้งานได้ตามปกติก็ตามที แต่ทว่าปัญหาดังกล่าวอาจจะนำไปสู่การเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งจะส่งผลให้อุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานผิดปกติ หรืออาจจะก่อให้เกิดไฟฟ้าช็อตและนำไปสู่อัคคีเพลิงได้ในท้ายที่สุด
ด้วยเหตุนี้หากเราพบว่าสายไฟของเราได้รับความเสียหาย เช่น ฉนวนที่หุ้มสายไฟเกิดการแตกหัก หรือพบเห็นสายไฟภายในเปิดเผยให้เห็นบางส่วน ทางที่ดีที่สุดเราควรรีบเปลี่ยนสายไฟใหม่ในทันทีเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ห้ามใช้งานสายไฟใกล้กับบริเวณที่มีน้ำหรือความชื้นสูง
น้ำและไฟฟ้านั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรอยู่ใกล้กัน นั่นก็เป็นเพราะว่าน้ำเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดีมากหนึ่งชนิด ซึ่งการใช้งานสายไฟใกล้กับบริเวณที่มีน้ำอาจจะส่งผลให้เกิดอันตรายกับตัวผู้ใช้งานอย่างมาก ทั้งการก่อให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ไฟช็อต ฯลฯ ซึ่งการมองข้ามความเสี่ยงนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับพวกเราหลายคนเลยทีเดียว โดยจะเห็นได้จากการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไดร์เป่าผมภายในห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วนั่นเอง
นอกจากนี้ความเสี่ยงนี้ยังไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่บริเวณภายในห้องน้ำเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงบริเวณที่มีความชื้นสูงเช่น ห้องครัว หรือบริเวณที่มักเกิดน้ำท่วมขังก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน
ดังนั้นทางที่ดีที่สุดเราควรติดตั้งและใช้งานสายไฟให้ห่างจากบริเวณที่มีน้ำอย่างน้อย 1.5 เมตรขึ้นไป และหากในกรณีจำเป็นก็ควรเลือกใช้สายไฟที่มีฉนวนกันน้ำหรือสายไฟที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในสภาวะที่มีความชื้นสูง ซึ่งจะป้องกันไม่ให้น้ำเข้าสู่สายไฟและทำให้เกิดการลัดวงจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ห้ามใช้งานสายไฟหลายสายภายใต้เต้ารับเดียว
การต่อสายไฟหลายสายจากเต้ารับเดียวและการใช้ปลั๊กพ่วงที่มากเกินไป ถือเป็นอีกหนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยทั้งในครัวเรือนและสำนักงาน ซึ่งสามารถที่จะนำไปสู่การเกิดอันตรายอย่างไฟฟ้าลัดวงจรได้ นั่นก็เป็นเพราะว่าเมื่อเต้ารับได้รับการใช้งานเกินความจุที่กำหนด สายไฟภายในเต้ารับและปลั๊กพ่วงจะต้องรับภาระหนักมากกว่าที่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งาน ส่งผลให้เกิดความร้อนที่เกิดขึ้นจากการโอเวอร์โหลดและจะสะสมอยู่ในระบบไฟฟ้าของเรา และอาจจะทำให้ฉนวนหุ้มสายไฟละลายและเกิดความเสียหายต่อฉนวนหุ้มสายไฟได้
หากต้องการป้องกันอันตรายจากการโอเวอร์โหลดดังกล่าว เราจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ปลั๊กพ่วงหรือเต้ารับเกินกว่าความจุที่ผู้ผลิตได้กำหนดเอาไว้ นอกจากนี้เองเรายังควรเลือกใช้ปลั๊กพ่วงที่มีคุณภาพและได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเช่น มาตรฐาน มอก. เป็นต้น
ห้ามใช้งานสายไฟผิดประเภท
การเลือกใช้งานสายไฟให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและลักษณะการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบนัก เนื่องจากสายไฟนั้นมีหลายประเภทและออกแบบมาเพื่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ทำให้การนำสายไฟภายในอาคารมาใช้ภายนอกอาคารเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ห้ามทำอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสายไฟภายในอาคารนั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อทนต่อสภาพอากาศที่รุนแรง และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สายไฟภายในอาคารมักมีฉนวนที่บางกว่าและไม่สามารถทนต่อความชื้น แสงแดดหรือความร้อนสูงที่มักเกิดขึ้นภายนอกอาคารได้ดีนัก ซึ่งการนำสายไฟภายในอาคารมาใช้ภายนอกอาจจะทำให้ฉนวนหุ้มสายไฟเกิดการเสื่อมสภาพเร็วอย่างที่ไม่ควรจะเป็น เกิดการแตกหักหรือหลุดล่อน ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดลัดวงจร และเกิดไฟไหม้ได้
ดังนั้นหากเราต้องการใช้งานสายไฟภายนอกอาคาร ควรเลือกใช้สายไฟที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการใช้งานภายนอกเท่านั้น เพราะสายไฟภายนอกมักจะมีฉนวนที่หนาและทนทานมากกว่า สามารถทนต่อสภาพอากาศเช่น ฝน แดด และความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีการป้องกันเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการกัดกร่อนจากสารเคมีหรือมลพิษที่อาจจะพบได้ในสภาพแวดล้อมภายนอกด้วยเช่นเดียวกัน
ห้ามใช้งานสายไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน
การใช้งานสายไฟที่ไม่ได้มาตรฐานถือเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าลัดวงจร ไฟฟ้ารั่ว นั่นก็เป็นเพราะว่าสายไฟที่ไม่ได้มาตรฐานมักจะมีคุณภาพที่ต่ำ และไม่ได้ผ่านการทดสอบตามข้อกำหนดความปลอดภัย เช่น ฉนวนหุ้มสายไฟอาจไม่ทนทานต่อการเสียดสีหรือความร้อนได้ดีนัก สายไฟภายในอาจไม่สามารถรับภาระกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังรวมไปถึงวัสดุที่นำมาใช้ผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานอาจจะทำให้สายไฟเกิดการเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วเมื่อใช้งานภายในระยะเวลาไม่นาน
ดังนั้นเราจึงควรเลือกใช้งานสายไฟที่ได้รับการรับรองจาก มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเราผู้ใช้งานได้ว่าสายไฟที่เราใช้งานนั้นมีคุณภาพและปลอดภัยต่อการใช้งานอย่างแท้จริงนั่นเอง
จะเห็นได้ว่าข้อห้ามเกี่ยวกับสายไฟนั้นมีหลากหลายข้อที่เราควรทราบ ซึ่งจะช่วยให้การใช้งานสายไฟของเรานั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ห่างไกลอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้งานสายไฟที่ผิดวิธี แนะนำว่าสำหรับท่านใดที่จำเป็นต้องใช้งานสายไฟตลอดเวลา และต้องการทำความเข้าใจในเรื่องการใช้งานสายไฟที่เหมาะสมให้ลึกซึ้งมากกว่านี้ การเลือกใช้บริการปรึกษากับผู้ให้บริการสายไฟที่มีคุณภาพโดยตรง ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากที่เราจะได้รับคำตอบที่ตรงกับความต้องการใช้งานสายไฟของเราแล้ว เราอาจจะได้รับโปรโมชั่นสายไฟราคาถูกดี ๆ ติดมือกลับมาในเวลาเดียวกันเลยทีเดียว
สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาผู้ให้บริการสายไฟราคาถูก คุณภาพสูง พลาดไม่ได้เลยกับผู้ให้บริการสายไฟคุณภาพอย่าง ปกรณ์ อิเล็คทริคอล เพราะเราคือร้านขายส่งสายไฟ ที่จำหน่ายตั้งแต่สายไฟขนาดเล็กไปจนถึงล้อไม้ขนาดใหญ่ มีบริการสายไฟราคาถูก คุณภาพส่งตรงจากโรงงานหลากหลายยี่ห้อ มั่นใจได้ถึงคุณภาพเพราะสายไฟของเราได้รับมาตรฐาน มอก. ทุกชิ้น
เรารับประกันคุณภาพสินค้าทั้งสายไฟ สายฝังดิน สายมัลติคอร์ สายคอนโทรล สายไฟโซล่าเซลล์ พร้อมบริการขนส่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีทีมงานมืออาชีพผู้เชี่ยวชาญด้านสายไฟโดยเฉพาะ สามารถให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษากับผู้ที่สนใจเลือกใช้งานสายไฟได้อย่างเหมาะสม ตรงกับความต้องการใช้งานที่คุณกำลังมองหาอย่างแน่นอน
สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือติดต่อสั่งซื้อสายไฟราคาถูกได้ที่
บริษัท ปกรณ์ อิเล็คทริคอล ซัพพลาย จำกัด
Tel : 098-2529965, 088-9459426 | Email : Info@pakorn-electric.com